วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ซีทีฯชูหุ่นยนต์เอ็ดดูเทนเมนต์

ซีที เอเชียโรโบติกส์ ได้ฤกษ์ เปิดตัวหุ่นยนต์บริการเสิร์ฟอาหาร หลังสุกี้ เอ็มเค ทุ่ม 10 ล้าน สั่งซื้อให้บริการ วางแผนคลอดหุ่นยนต์เอ็ดดูเทนเมนต์ออกมาประมาณกลางปีหน้า พร้อมวางแผนระยะยาว 3 ปี ส่งออกหุ่นยนต์บริการดูแลคนชรา-เด็ก เจาะตลาดแดนปลาดิบ นายเฉลิมพล ปุณโณทก กรรมการผู้จัดการ บริษัทคอมพิวเตอร์ เทเลโฟนี่ เอเชีย จำกัด หรือ ซีทีเอเชีย จำกัด เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่าขณะนี้ได้เปิดตัวบริษัทลูก คือซีทีเอเชีย โรโบติกส์ จำกัด อย่างเป็นทางการ เพื่อพัฒนาหุ่นยนต์เชิงพาณิชย์เป็นรายแรกในไทย และภูมิภาคอาเซียน โดยแผนธุรกิจระยะสั้นนั้นได้พัฒนาหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร ถ่ายรูป ร้องเพลงวันเกิด ให้กับสุกี้ เอ็มเค ซึ่งมียอดการสั่งซื้อเบื้องต้น 10 ตัว มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท "หุ่นยนต์ดังกล่าวมีชื่อว่า หุ่นยนต์ซีที (CT) มีคุณสมบัติพิเศษให้บริการรับคำสั่งด้วยเสียงอัตโนมัติ สื่อสารกับมนุษย์ได้ 2 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษ กับภาษาไทย เคลื่อนที่ด้วยล้อได้รอบทิศทางในพื้นราบด้วยพลังงานแบตเตอรี่อยู่ได้นาน 3 ชั่วโมง สามารถยกสิ่งของได้ไม่ต่ำกว่า 5 กิโลกรัม พัฒนาขึ้นมาโดยวิศวกรคนไทย ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัย อย่างไรก็ตามทางเอ็มเค จะเปลี่ยนชื่อหุ่นยนต์ดังกล่าวเป็น "ดินสอ" เพื่อให้บริการเสิร์ฟอาหารภายในร้าน" ขณะที่แผนธุรกิจระยะกลางนั้นได้เตรียมพัฒนาหุ่นยนต์เพื่อการเรียนรู้ และความบันเทิง (Edutainment) ออกมาสู่ตลาดประมาณกลางปีหน้า ส่วนแผนระยะยาวนั้นได้วางเป้าหมายพัฒนาหุ่นยนต์ดูแลคนสูงอายุและเด็ก ออกไปจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นอีกประมาณ 3 ปีข้างหน้า ตลาดหุ่นยนต์มีแนวโน้มเติบโตสูง จากการประเมินของสมาคมหุ่นยนต์ญี่ปุ่นระบุว่า ปี 2568 ตลาดหุ่นยนต์ทุกประเภทจะมีมูลค่ารวม 66,400 ล้านเหรียญ ในจำนวนนี้ตกเป็นของหุ่นยนต์บริการประมาณ 50,000 ล้านเหรียญ ขณะที่สำนักงานพัฒนาอุตสาหกรรม-เศรษฐกิจของไต้หวัน คาดการณ์ว่าตลาดหุ่นยนต์ทุกประเภทจะมีมูลค่ารวมมากกว่ามูลค่าตลาดรถยนต์ทั้งโลก
ส่วนอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ให้บริการ ใช้งานตามบ้าน ยังมีโอกาสเติบโต โดยยังไม่มีผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ โดยคาดว่าแต่ละปีตลาดมีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท นายเฉลิมพล กล่าวต่ออีกว่าในส่วนของรายได้นั้นบริษัทไม่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ แต่ต้องการสร้างอุตสาหกรรมผลิตหุ่นยนต์เชิงพาณิชย์ของไทยขึ้นมาแข่งขันในเวทีโลก อย่างไรก็ตามคาดว่าภายในปีหน้าธุรกิจดังกล่าวจะสามารถสร้างรายได้เลี้ยงตัวเองได้ ทั้งนี้ในการพัฒนาหุ่นยนต์บริการนั้นบริษัทมีแผนลงทุนทั้งหมดราว 50 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้รับงบประมาณสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน 1 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบวิจัยและพัฒนา รวมถึงการตลาดราว 20 ล้านบาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น