วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ญี่ปุ่นแจ้งเกิดหุ่นยนต์ทนฝน เล็งเทียบชั้นคนงานก่อสร้าง

Japanese humanoid happy to work on in the rain

คนงานก่อสร้างเตรียมทำใจตกงาน เมื่อบริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์สัญชาติญี่ปุ่นโชว์ตัวหุ่นยนต์รุ่นใหม่ที่สามารถทำงานได้กลางสายฝน ระบุด้วยว่าอีก 3 ปีข้างหน้าอาจจะสามารถวางจำหน่ายให้กับบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ถือเป็นการยกระดับความสามารถในการทำงานของหุ่นยนต์ให้ใกล้เคียงมนุษย์ได้อย่างน่าจับตามองหุ่นยนต์ทนฝนนี้มีนามว่า HRP-3 Promet Mk-II ผลงานการพัฒนาของบริษัทคาวาดะอินดัสทรีส์ (Kawada Industries) เป็นหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ลำตัวสีขาวความสูง 160 เซนติเมตร (5 ฟุต 10 นิ้ว) น้ำหนัก 68 กิโลกรัมหรือประมาณ 149 ปอนด์ (รวมแบตเตอรี่) ใบหน้าสวมแว่นกันแสงอาทิตย์ บริเวณมือสามารถเกาะยึดและสามารถสร้างสมดุลย์ลำตัวขณะเคลื่อนที่โดยการถ่วงน้ำหนักช่วงแขนเช่นเดียวกับมนุษย์ นอกจากจะสามารถทำงานท่ามกลางสายฝน HRP-3 Promet Mk-II ยังสามารถเคลื่อนที่บนเส้นทางที่เต็มไปด้วยทราย กรวด หรือเจิงนองด้วยโคลนลื่น งานนี้คาวาดะฯสาธิตการทำงานของ HRP-3 Promet Mk-II แก่สื่อมวลชนโดยจำลองสภาพอากาศฝนตก พร้อมให้หุ่นยนต์เดินบนพื้นห้องที่โรยด้วยทราย ซึ่งหุ่นยนต์ก็สามารถทำงานได้ตามปกติคาวาดะฯอธิบายถึงแนวคิดการพัฒนาหุ่นยนต์ตัวนี้ว่า ต้องการพัฒนาหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ที่สามารถทำงานในสภาพแวดล้อมแท้จริงทุกสภาพอากาศ ซึ่งจะถือเป็นจุดเด่นที่ช่วยสร้างความต่างให้กับคาวาดะฯ"เราต้องการนำหน้าคู่แข่งด้วยการสร้างหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ที่ทำงานได้ในสภาพแวดล้อมจริง" ตัวแทนบริษัทคาวาดะฯกล่าวแถลงการณ์ร่วมกับบริษัทคาวาซากิ เฮฟวี อินดัสทรีส์ (Kawasaki Heavy Industries) และสถาบันเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์อุตสาหกรรมชั้นสูงนานาชาติหรือ National Institute of Advanced Industrial Science and Technology เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา"ประเทศญี่ปุ่นนั้นมีปัญหาเรื่องประชากร ปัญหานี้จึงเป็นปัจจัยผลักดันให้เกิดการพัฒนาหุ่นยนต์ที่สามารถปฏิบัติงานแทนมนุษย์อย่างจริงจัง" คาวาดะฯแถลง โดยระบุว่าจะเป็นผลดี หากมีการพัฒนาหุ่นยนต์ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับหน้าที่การงานซึ่งมนุษย์เท่านั้นที่ทำได้ "หากหุ่นยนต์สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้ เชื่อว่าต้นทุนสังคมจะสามารถลดลงได้ในระดับหนึ่ง"ทากาคัตสึ ไอสุซุมิ (Takakatsu Isozumi) ผู้จัดการโครงการบริษัทคาวาดะฯ เปิดเผยถึงแผนการทำตลาด HRP-3 Promet Mk-II ว่ามีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง คาดว่าจะสามารถจำหน่ายได้จริงในช่วงปี 2010 หรือ 3 ปีนับจากนี้ สนนราคาพนักงานก่อสร้างไฮเทคคาดว่าจะอยู่ที่ 15 ล้านเยนต่อตัว (ประมาณ 3.88 ล้านบาท)"เราวางแผนว่าจะเพิ่มความสามารถให้หุ่นยนต์สามารถทำงานในสายงานก่อสร้างได้ อย่างเช่นความสามารถในการขับรถผสมปูนหรือรถอื่นๆที่ใช้ในงานก่อสร้าง"ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศชั้นนำในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์มานานหลายปีทั้งในด้านการพัฒนา การผลิต และการนำไปใช้งานจริง ไม่ว่าะเป็นหุ่นยนต์เพื่อความบันเทิง หุ่นยนต์ทุ่นแรง หรือหุ่นยนต์เพื่อการรักษาความปลอดภัย ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่นอย่างมิตซูบิชิ เฮฟวี อินดัสทรีส์ (Mitsubishi Heavy Industries) ประกาศให้บริการเช่าหุ่นยนต์ฝ่ายต้อนรับแก่โรงพยาบาลแล้ว เพื่อทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูล รวมถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยในโรงพยาบาล




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น